“หน้ากากพรานบุญ” สุดยอดวัตถุมงคล เมตตามหานิยม

พรานบุญ เป็นพรานที่มีวิชาแกร่งกล้า สามารถเดินทางท่องเที่ยวในป่าหิมพานต์ได้ ซึ่งป่าหิมพานต์เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ทรงคุณวิเศษต่างๆ มีทั้งนักบวช ฤาษี นักสิทธิ์ วิทยาธร และสิงสาราสัตว์อันแปลกประหลาดพิสดาร และเป็นดินแดนที่อยู่ห่างไกลจากเมืองของมนุษย์ยากที่คนธรรมดาซึ่งไม่มีฤทธิ์อภิญญาจะสามารถเข้าไปได้

ตามตำนานคติทางพระพุทธศาสนาจะพบว่า “พรานบุญ” คือ อดีตชาติในชาติหนึ่งของพระอานนท์ พุทธอนุชา โดยในชาดกทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวไว้ว่า ในอดีตชาติก่อนที่เจ้าชายสิทธัตธะจะทรงตรัสรู้เป็นพระอนุตระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงเสวย พระชาติพระนามว่า “พระสุธน” ทรงเป็นพระโอรสของพระเจ้าอาทิตยวงศ์เจ้าเมืองปัญจาลนคร

ครั้งหนึ่งพรานบุญได้ช่วยเหลือพญานาคราชนามว่า ท้าวชมพูจิต ให้รอดพ้นจากความตายจากการปองร้ายของ พระเจ้านันทราชผู้ครองเมืองมหาปัญจาละ ท้าวชมพูจิตจึงมอบแก้ววิเศษให้ พร้อมกับคำสัญญาว่า หากวันข้างหน้าพรานบุญประสงค์สิ่งใดก็ให้มาหา เมื่อขออะไรก็จะให้ เพื่อเป็นการตอบแทน

ต่อมา พรานบุญได้พบนางกินนรทั้งเจ็ดผู้เป็นธิดาท้าวทุมราช และต้องการนำนางกินนรไปถวายพระสุธนกุมาร จึงได้เดินทางไปขอยืม นาคบาศ จากท้าวชมพูจิต ซึ่งเป็นของวิเศษของพญานาค และสามารถจับนางมโนราห์ ไปถวายพระสุธนได้สำเร็จ

ผู้คนต่างนับถือในความสามารถของพรานบุญซึ่ง โดดเด่นในทางโชคลาภและโภคทรัพย์ ครั้งหนึ่งพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี ได้กล่าวกับลูกศิษย์ว่า “ไม่มีการค้าใดหรือทำสิ่งได้จะได้ผลตอบแทนมากเท่าพรานบุญ เพราะพรานบุญจับนางมโนราห์ได้เพียงนางเดียว เช้ารุ่งขึ้นก็ได้รับบำเหน็จจากกษัตริย์ ครองเมือง 1 เมืองพร้อมทรัพย์สมบัติและบริวารมากมาย”

ใครที่บูชาพรานบุญ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ประพฤติตัวอยู่ในศีลธรรม ต่างก็ได้ประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ “หน้ากากพรานบุญ” หรือจะเรียกว่า “หน้ากากมโนราห์” กลายเป็นเครื่องรางของขลังคู่กับปักษ์ใต้ เป็นสุดยอดวัตถุมงคล แห่งวิชาเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โภคทรัพย์ โดยเฉพาะที่ วัดยางใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช